1. การติดตั้งโช๊คอัพมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ดังนั้นควรได้รับการติดตั้งจากช่างผู้ชำนาญ2. โช๊คอัพ เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในระบบรองรับน้ำหนัก แต่โช๊คอัพไม่ได้ทำหน้าที่รับน้ำหนักรถบันทุก
โช๊คอัพเป็นตัวหน่วงการเคลื่อนที่ขึ้นและลงของรถยนต์
เพื่อให้รถยนต์ได้รับแรงสะเทือนน้อยที่สุด
และคอยควบคุมรถยนต์ให้สัมผัสกับพื้นผิวของถนนขณะรถวิ่ง3. หลีกเลี่ยงสภาพถนนที่มีสภาพไม่ดี เป็นหลุมบ่อ4. การขับรถตกหลุมแรงๆ หรือขับด้วยความเร็วขึ้น-ลงลูกระนาด ทำให้อายุการใช้งานของโช๊คอัพสั้นลง5. หลังการติดตั้งโช๊คอัพใหม่ควรขับรถบนถนนเรียบประมาณ 300-500 กิโลเมตร เพื่อเป็นการวอร์มโช๊คอัพ6.
เมื่อเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่
อาจจะทำให้การรับรู้ถึงความรู้สึกของการขับขี่่เปลี่ยนไป ให้ขับสักประมาณ
300-500 กิโลเมตรก่อน
ถ้ายังมีอาการที่ยังรู้สึกปกติอยู่ให้ปรึกษาช่างผู้ชำนาญ7. หลังการติดตั้งโช๊คอัพใหม่ต้องผ่านการตั้งศูนย์ล้อด้วยเสมอ8. การเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ จะคำนึงถึงความปลอดภัยและเกาะถนนที่ดีเยียม ดังนั้นความรู้สึกนุ่มนวลในการขับขี่อาจไม่ดีนัก ตรงกันข้ามหากต้องการความนุ่มนวลการยึดเกาะถนนอาจจะต้องลดลง9. การกดตัวถังรถไม่สามารถบอกได้ว่าโช๊คอัพอยู่ในสภาพดีหรือเสีย
เนื่องจากรถบางรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อความนุ่มนวลในการขับขี่
ดังนั้นเมื่อทำการทดสอบโดยขย่มแล้วปล่อย จะรู้สึกว่ารถนั้นใช้เวลา 2-3
ครั้งก่อนจะหยุดแต่ไม่ได้หมายความว่ารถคันที่ทดสอบนั้น โช๊คชำรุด
หรือไม่ในทางตรงกันข้ามในการเคลื่อนที่ของโช๊คครั้งหรือสองครั้ง
ก็ไม่ได้หมายความว่าโช๊คนั้นจะดี เพราะรถยนต์แต่ละรุ่น
วิศวกรออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้งการของลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป เช่น
รถแข่ง รถสปอร์ต รถรีมูซีน หรือรถส่วนบุคคลและรถกระบะ10. ปัจจุบันมีโช๊คอัพให้เลือกใช้หลายประเภท ดังนั้นควรสอบถามคุณสมบัติต่างๆ ของโช๊คอัพแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่น ถึงรายละเอียดสมรรถนะที่เหมาะสมกับพฤติกรรม ในการขับขี่ของผู้ใช้
กรณีเลือกประเภทของโช๊คไม่ตรงกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้ใช้
อาจทำให้รู้สึกได้ว่า การขับขี่นั้นไม่เป็นไปตามความคาดหวัง เช่น
เลือกโช๊คที่ใช้กับรถสปอร์ตคุณสมบัติยึดเกาะถนนดีมีเสถียรภาพที่ความเร็ว
สูงๆ มาใส่ในรถรีมูซีน ซึ่งผู้ขับต้องการความนุ่มนวลในการขับขี่
สิ่งที่ได้รับจะต้องไปในทางตรงกันข้ามเป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น